มร.ชม. ศูนย์ประสานงานเครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าปีที่ 4 เปิดบ้านต้อนรับ เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน ในโอกาสร่วมประชุมชี้แจงการดำเนินงาน “โครงการหนุนเสริมศักยภาพเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบนเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล
มร.ชม. ศูนย์ประสานงานเครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าปีที่ 4 เปิดบ้านต้อนรับ เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน ในโอกาสร่วมประชุมชี้แจงการดำเนินงาน
“โครงการหนุนเสริมศักยภาพเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบนเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”
ผศ.พรพิมล วงศ์สุข รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมชี้แจงการดำเนินงาน “โครงการหนุนเสริมศักยภาพเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบนเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องมินิเธียเตอร์ อาคารสำนักดิจิทัลเพื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พื้นที่เวียงบัว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าวผู้ร่วมประชุมจากเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน ได้สรุปภาพรวมสถานการณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเขตภาคเหนือตอนบน และได้จัดให้มีการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงสถานการณ์และการจัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งภายในและรอบ ๆ สถาบันการศึกษา โดยจะได้นำข้อมูลการดำเนินงานในปี 2561 ไปพัฒนาการดำเนินงานของโครงการให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป
ทางด้าน อาจารย์นิชธิมา บุญเฉลียว หัวหน้าภาควิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้สนับสนุนการดำเนินงานสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ในส่วนของภาคเหนือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งซึ่งประสบกับปัญหาและผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งจากการศึกษา พบว่ากลุ่มประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในเขตภาคเหนือ มีผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 3.7 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 39.2 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงสุดในภาพรวมของสัดส่วนผู้ดื่มทั้งประเทศและทั้งนี้เมื่อดูจากรายงานสถานการณ์รายจังหวัด จะพบว่าได้ว่า อัตราความชุกของจังหวัดที่พฤติกรรมการดื่มสูงสุดดังกล่าว ล้วนแล้วแต่เป็นจังหวัดในกลุ่มภาคเหนือตอนบน ทั้งสิ้น โดย 5 อันดับแรกของของประเทศ คือ อันดับ 1 จังหวัดพะเยา ร้อยละ 54.0 อันดับ 2 จังหวัดแพร่ ร้อยละ 50.5 อันดับ 3 จังหวัดเชียงรายร้อยละ 49.3 อันดับ 5 จังหวัดน่าน ร้อยละ 46.7 นอกจากนี้ยังพบอัตราความชุกที่น่าวิตกกังวลคือ ในกลุ่มผู้ดื่มที่เป็นเยาวชน ซึ่งมีอายุระหว่าง 15 - 19 ปี พบว่า อันดับ1 ของประเทศ คือ จังหวัดพะเยา ร้อยละ 30.4 รองลงมา อันดับ 4 จังหวัดแพร่ ร้อยละ 25.7 อันดับ 7 จังหวัดน่าน ร้อยละ 23.9 อันดับ 12 จังหวัดเชียงราย ร้อยละ 19.6 อันดับ 17 จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยละ 18.5 ตลอดระยะเวลา 3 ปี ของการดำเนินโครงการและกิจกรรมที่ผ่านมา เครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าภาคเหนือตอนบน ได้ก่อเกิดผลเชิงบวกหลายประการ เช่น เกิดการป้องกันแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับบุคคล ซึ่งมีนิสิตนักศึกษา บุคลากรสถาบันศึกษาเครือข่ายเข้าร่วม ไม่ต่ำกว่า 6,000 คน เกิดแกนนำนักศึกษาเพื่อขับเคลื่อนงานไม่น้อยกว่า 120 คน มีการเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมาย อันได้แก่ชุมชน ร้านค้า สถานบันเทิงรอบๆ มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ในระดับสังคม ยังมีกิจกรรมการสื่อสารรณรงค์ ตลอดจนการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อหน่วยงานองค์กรอื่นๆ ในการป้องกันแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ทางสังคมที่เป็นพลวัตร มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องลักษณะและรูปแบบด้วยเช่นกัน เหตุดังกล่าวจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการปรับกลยุทธ์ปรับกระบวนการขับเคลื่อนงานให้เท่าทันภาวการณ์ที่แปรเปลี่ยนไป
ภาควิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ในฐานะศูนย์ประสานงานเครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าในปีที่ 4 ได้ตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญยิ่งของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งได้แก่ การเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” (Change Agent) ซึ่งหมายถึงการเป็นองค์กรขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพื่อนำพาผู้คน ชุมชน และประเทศไปสู่สังคมที่พึงปรารถนา ทั้งนี้ จึงได้พัฒนา “โครงการหนุนเสริมศักยภาพเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ” ขึ้น โดยมุ่งหวังให้เกิดกระบวนการการเสริมพลังในการขับเคลื่อนและหนุนเสริมศักยภาพเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาในเขตภาคเหนือตอนบน เพื่อก่อเกิดเป็นกลไกสำคัญในการป้องกัน แก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งในระดับบุคคล องค์กร ชุมชน และสังคม ต่อไป
ภาพ – ข้อมูล: ภาควิชาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ข่าว: นางสาวพัชริดา เขียวขุนเนิน นักประชาสัมพันธ์ งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวงิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ประมวลภาพกิจกรรม >> Click
เอกลักษณ์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ "สถาบันอุดมศึกษา เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น"
ค่านิยมหลัก ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
C Community สถาบันอุดมปัญญาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ก้าวไกล
M Moral สร้างบัณฑิตดีสู่สังคมไทยด้วยอุดมการณ์แห่งศีลธรรม
R Royal น้อมนำพระราชดำริมาปฏิบัติเพื่อพัฒนาสังคม
U Unity ด้วยจิตอาสาพัฒนาสถาบันเป็นหนึ่งเดียว
อัตลักษณ์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ "บัณฑิตมีทักษะชีวิต จิตสาธารณะ และสู้งาน"
คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
คือ การมีคุณลักษณะ เป็นคนดี มีความรู้ดี บุคลิกภาพดี สุขภาพดี และเป็นพลเมืองดี (5 ดี)