16 ตุลาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ประจำปีการศึกษา 2565 ณ หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในการนี้สภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้มีมติมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพลังงานและสิ่งแวดล้อมชุมชน ให้แก่ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ด้วยเป็นผู้มีบทบาทสำคัญด้านการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รายแรกของประเทศไทยและของอาเซียน อีกทั้งเป็นผู้ได้รับรางวัลและการยกย่องจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ให้เป็น Leading a Woman Powered Solar Energy Transformation ในฐานะผู้นำการบุกเบิกพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานสะอาดเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จเป็นคนแรก นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริม สร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่น สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่ผ้าไทย ให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายผ้าไทยแก่ประชาชนทั่วประเทศ ทั้งนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี จำนวน 1,170 คน หลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก จำนวน 11 คน เข้ารับปริญญาบัตร

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้ดำเนินงานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องทุกมิติ อาทิ ด้านการจัดการศึกษา ได้จัดหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตตามรูปแบบการผลิตบัณฑิตครู “CMRU Model” ทำให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถาบันผลิตครูตามโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น อย่างต่อเนื่องจนถึงรุ่นที่ 5 ได้พัฒนานักศึกษาด้าน Soft Skill ผ่านกระบวนการวิศวกรสังคม และพัฒนาคุณภาพบัณฑิตด้วยการจัดระบบนิเวศน์การเรียน มีเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้จัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ เพื่อผลิตบัณฑิตทางด้านสุขภาพ อีกทั้งได้พัฒนาด้านการศึกษา เศรษฐกิจ พลังงาน จนได้รับการคัดเลือกจาก The Times Higher Education University Impact Ranking เป็นอันดับที่ 1 สี่ปีต่อเนื่องของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ และเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศ

สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์มีผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี เข้ารับปริญญาบัตร จำนวน 205 คน ทั้งนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในการเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ตามวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยเพิ่มมูลค่า พัฒนาท้องถิ่นสู่สากล” โดยมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ มีการพัฒนาท้องถิ่นตามสภาพปัญหาของชุมชน และดำเนินโครงการด้วยการนำองค์ความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยมีการดำเนินงานผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการยกระดับนวัตกรรมชุมชนด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยการนำองค์ความรู้มาบูรณาการการทำงานกับภาคีเครือข่าย ในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก